วิธีสวมใส่ชุดกิโมโน2 รับลิงก์ Facebook X Pinterest อีเมล แอปอื่นๆ กันยายน 18, 2560 3. ใส่กิโมโนทับนาคะจูบัง 4. พันโอบิและทำเป็นรูปทรงโอไทโกะ โดยทั่วไปสำหรับกิโมโน พวกเราจะใช้ Nagoya Obi หรือ Fukuro obi ที่มีความกว้างประมาณ 36 ซม. และคุณสามารถใช้ Hanhaba Obi สำหรับโอกาสสบายๆ ค่ะ รับลิงก์ Facebook X Pinterest อีเมล แอปอื่นๆ ความคิดเห็น
ส่วนประกอบของชุดกิโมโน1 กันยายน 18, 2560 ส่วนประกอบของชุดกิโมโน 1. อันดับแรกก็คือ Nagajuban ชุดชั้นในจะมีสีอ่อน มักเป็นสีขาว ผ้าจะบาง 2. ผ้าเส้นเล็กยาวๆ เรียกว่า Koshihimo ซึ่งใช้ผูกชุดชั้นใน 3. Kimono หรือ Yukata พอสวมแล้วก็จะผูกด้วย Datejime สำหรับกิโมโน Koshihimo สำหรับยูกาตะ แต่ปัจจุบันมี Datejime สำเร็จรูปที่ไม่ต้องผูกเองให้เสียเวลาใช้แถบเทปติด 4. Obi ผ้าผืนยาวที่ผูกรอบเอว ซึ่งสามารถเลือกผูกได้หลากหลายแบบ ความยากของการใส่กิโมโนนั้นก็อยู่ที่การผูกโอบิเป็นหลัก โอบิของผู้ชายจะมีขนาดแคบกว่าของผู้หญิงและมักผูกแบบเรียบๆ ปัจจุบันมีโอบิสำเร็จรูปขายสำหรับใส่กับยูกาตะเพื่อความสะดวก ผู้ใส่ไม่ต้องผูกเอง อ่านเพิ่มเติม
เครื่องแต่งกายประจำชาติญี่ปุ่น กันยายน 18, 2560 เครื่องแต่งกายประจำชาติญี่ปุ่น ชุดกิโมโนชุดประจำชาติญี่ปุ่น คำว่า กิโมโน (kimono) ถ้าแปลตามตัวแล้วหมายถึง เสื้อผ้า ถือได้ว่าเป็นชุดประจำชาติของญี่ปุ่น สามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง มีลักษณะพิเศษตรงที่ชายเสื้อจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมีผ้าแพรพันสะเอว (obi) ต่างกับชุดที่เป็นเสื้อผ้าของตะวันตก ( yofuku )อย่างชัดเจน ชุดกิโมโน ถูกดัดแปลงมาจากชุดในราชสำนักจีนตั้งแต่สมัยนาระ ถูกดัดแปลงเติมแต่งจนกลายเป็นเอกลักษณ์และกลายเป็น ชุดประจำชาติญี่ปุ่น ในที่สุด จนถึงปัจจุบันชุดกิโมโน มีสีสันสดใสสวยงามละลานตาไปหมด ผู้สูงอายุจะเลือกโทนสีไม่ค่อยฉูดฉาดและลวดลายเรียบง่ายกว่าชุดของหญิงสาววัยรุ่นที่กลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว ทั้งสิ่งของประดับ ดอกไม้ที่คาดบนศรีษะเสริมให้ผู้สวมใส่ภูมิฐานดูดี อ่านเพิ่มเติม
ความเป็นมาของชุดกิโมโน กันยายน 18, 2560 ความเป็นมาของชุดกิโมโน สมัยนารา (ค.ศ. 710 - 794) ก่อนที่ชุดกิโมโนจะเป็นที่นิยม ชาวญี่ปุ่นมักแต่งชุดท่อนบนกับท่อนล่างเหมือนกันหรือไม่ก็เป็นผ้าชิ้นเดียวกันไปเลย ต่อมาในสมัยเฮอัน (ค.ศ. 794 - 1192) ซึ่งถือเป็นช่วงเริ่มต้นการใส่กิโมโน ชาวญี่ปุ่นพัฒนาเทคนิคการตัดชุดเสื้อผ้าด้วยการตัดผ้าเป็นเส้นตรง เพื่อให้ง่ายต่อการสวมใส่ หยิบมาคลุมตัวได้ทันที ทั้งยังเป็นชุดที่เหมาะกับทุกสภาพอากาศ สามารถเปลี่ยนเนื้อผ้าที่ตัดเย็บให้เหมาะกับฤดูกาล ความสะดวกสบายนี้ทำให้ชุดกิโมโนแพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว โดยวงการแฟชั่นสมัยนั้น ผู้ตัดเย็บก็จะคิดหาวิธีที่ทำให้ชุดกิโมโนมีสีสัน ผสมผสานกันด้วยสีต่างๆให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและชนชั้นทาง สังคมถือว่าเป็นช่วงที่ชุดพัฒนาในเรื่อง สี มากที่สุด ในยุคคามาคุระ (ค.ศ. 1338 - 1573) ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะนิยมใส่ชุดกิโมโนที่สีสันแสบทรวง ยิ่งเป็นนักรบจะต้องยิ่งใส่ชุดที่สีฉูดฉาดมากๆเพื่อแสดงถึงความเป็นผู้นำ ต่อมาในยุคเอโดะ ( ค.ศ. 1600-1868 ) ช่วงที่โชกุนโตกูกาวาปกครองญี่ปุ่น โดยให้ขุนนางไปปกครองตามแคว้นต่างๆ นั้น ในช่วงนี้นักรบซามูไรแต่ละสำนักจะแต่งตัวแบ่งแยกตามก อ่านเพิ่มเติม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น